ผลของบาป
ผลของการผิดศีล หากกรรมนั้นเป็นกรรมอ่อน ไม่ให้ผลเกิดใหม่เป็นสัตว์ดิรัจฉาน ในเปรต เป็นต้น
แต่เมื่อยังมีชีวิตอยู่เรียกว่าปวัตติกาล (อาจเป็นชาตินี้ หรือชาติหน้า แล้วแต่กำลังของเจตนา)
จะได้รับผลดังนี้
ผลในปวัตติกาลของปาณาติบาต มี ๙ ประการ คือ
๑. ทุพพลภาพ
๒. รูปไม่งาม
๓. กำลังกายอ่อนแอ
๔. กำลังกายเฉื่อยชา กำลังปัญญาไม่ว่องไว
๕. เป็นคนขลาด
๖. ฆ่าตนเอง หรือถูกฆ่า
๗. โรคภัยเบียดเบียน
๘. มีความพินาศของบริวาร
๙. อายุสั้น
ผลในปวัตติกาลของอทินนาทาน (การลักขโมย แม้เงินครึ่งบาทก็ตาม)มี ๖ ประการ คือ
๑. ด้อยทรัพย์
๒. ยากจน
๓. อดอยาก
๔. ไม่ได้สิ่งที่ตนปรารถนา
๕. พินาศในการค้า
๖. ทรัพย์พินาศเพราะอัคคีภัย อุทกภัย ราชภัย โจรภัยเป็นต้น
ผลในปวัตติกาลของกาเมสุมิจฉาจาร (แม้การหัวเราะกระซิกกับคนรักของคนอื่นด้วยจิตชอบพอก็ไม่ควร) มี ๑๑ ประการ คือ
๑. มีผู้เกลียดชังมาก
๒. มีผู้ปองร้ายมาก
๓. ขัดสนทรัพย์
๔. ยากจนอดอยาก
๕. เป็นหญิง
๖. เป็นกระเทย
๗. เป็นชายในตระกูลต่ำ
๘. ได้รับความอับอายเป็นอาจิณ
๙. ร่างกายไม่สมประกอบ
๑๐. มากไปด้วยความวิตกห่วงใย
๑๑. พลัดพรากจากผู้ที่ตนรัก
ผลในปวัตติกาลของมุสาวาท มี ๘ ประการ คือ
๑. พูดไม่ชัด
๒. ฟันไม่เป็นระเบียบ
๓. ปากเหม็นมาก
๔. ไอตัวร้อนจัด
๕. ตาไม่อยู่ในระดับปกติ
๖. กล่าววาจาด้วยปลายลิ้น และปลายปาก
๗. ท่าทางไม่สง่าผ่าเผย
๘. จิตไม่เที่ยงคล้ายวิกลจริต
ผลในปวัตติกาลของอภิชฌา(การที่จิตคิดอยากได้ของผู้อื่นมาเป็นของตน) มี ๔ ประการ คือ
๑. เสื่อมในทรัพย์และคุณงามความดี
๒. ปฏิสนธิในตระกูลต่ำ
๓. มักได้รับคำติเตียน
๔. ขัดสนในลาภสักการะ
ผลในปวัตติกาลของพยาบาท(ความคิดร้ายขอให้เขาตาย , เสียหาย ,คิดแช่งเขา) มี ๔ ประการ คือ
๑. มีรูปร่างหน้าตาทราม
๒. มีโรคภัยเบียดเบียน
๓. อายุสั้น
๔. ตายโดยถูกทำร้าย
ผลในปวัตติกาลของมิจฉาทิฏฐิ(ไม่เชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้า) มี ๔ ประการ คือ
๑. ห่างไกลรัศมีแห่งพระธรรม
๒. มีปัญญาทราม
๓. ปฏิสนธิในพวกคนป่าทีไม่รู้อะไร
๔. เป็นผู้มีฐานะไม่เทียมคน
ผลในปวัตติกาลของการเสพสุราเมรัย มี ๖ ประการ คือ
๑. ทรัพย์ถูกทำลาย
๒. เกิดวิวาทบาดหมาง
๓. เป็นบ่อเกิดของโรค
๔. เสื่อมเกียรติ
๕. หมดยางอาย
๖. ปัญญาเสื่อมถอย